ผู้เขียน: foodhealthfruits


องค์ประกอบในกล้วยดิบนั้นมีสารอาหารมากมายประกอบไปด้วย แป้งต้านทานการย่อยชนิดที่2 คาร์โบไฮเดรต สารเทนนิน เส้นใยอาหาร  วิตามิน A วิตามิน B6 และวิตามิน C ซึ่งวันนี้เราจะมีอธิบายให้เข้าใจถึงหลักของแป้งต้านทานการย่อยในกล้วยดิบว่ามีประโยชน์อย่างไรในต่อลำไส่ใหญ่ และกระเพาะอาหาร แป้งต้านทานการย่อย (Resistant Starch) คือ เป็นแป้งที่มีประโยชน์ต่อต่อร่างกายและยังมีประโยชน์ต่อสำไส้ใหญ่ เนื่องจากแป้งต้านทานการย่อยไม่ถูกย่อยที่กระเพาะอาหารและลำไส้เล็กทำให้ผ่านเข้าไปถึงลำไส้ใหญ่มีคุณสมบัติเทียบเท่าเส้นใยอาหาร ทำให้ระบบขับถ่ายดีขึ้นและระบบหมุนเวียนเลือดดีขึ้น เมื่อแป้งไม่ได้ถูกย่อยก็จะมาถึงลำไส้ใหญ่ทำให้ไปกระตุ้นให้เกิดการหมักโดยจุลินทรีย์บางชนิด ที่เป็นประโยชน์ต่อลำไส้ใหญ่ ที่เรียกว่า โพรไบโอติก ทำให้เกิดเป็นกรดไขมันชนิดสายสั้น ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกายและระทางเดินอาหารเป็นอย่างมาก ประโยชน์ของแป้งต้านทานการย่อย 1.ช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่           ในลำไส้ใหญ่เป็นแหล่งสะสมของเสียและจุลินทรีย์ต่างๆหลายชนิด ทำให้มีโอกาสที่จะเกิดมะเร็งได้มากว่าระบบทางเดินอาหารในส่วนอื่นๆ แป้งต้านทานการย่อยเมื่อเกิดการหมักโดยจุลินทรีย์แล้วทำให้เกิดกระบวนการที่ส่งผลให้ลดการเกิดสารที่ส่งผลเสียต่อร่างกาย ทำให้ป้องกันการเกิดมะเร็งลำไส้ได้ ซึ่งจากกระบวนการที่กล่าวจะได้กรดไขมันชนิดสั้นที่ไปช่วยยับยั้งเอนไซม์ของจุลินทรีย์บางชนิดที่เป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งลำไส้ได้ และจุลินทรีย์ช่วยสลายเส้นใยอาหารทำให้เกิดการเพิ่มขยายมวลอุจจาระและกระตุ้นให้เกิดการขับถ่ายช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ 2.ลดน้ำตาลในเลือด           ค่าดัชนีน้ำตาล (GI) เป็นค่าที่บ่งบอกถึงปริมาณคาร์โบไฮเดรตในอาหารและมีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด Read more…


รักษาโรคกระเพาะอาหาร อาการโรคกระเพาะอาหารหากใครกำลังประสบปัญหาอยู่คงทราบดีว่ามันทรมานแค่ไหน สาเหตุของโรคก็มีหลายสาเหตุ เช่น การติดเชื้อแบคทีเรีย การหลั่งกรดที่มากเกินไป การทานอาหารไม่ตรงเวลา ทานอาหารที่มีรสจัด หรือทานเครื่องดื่มแอลกอฮอร์ หรือแม้กระทั่งการทานยาแก้ปวด เป็นต้น การทานยาจึงเป็นทางเลือกที่หลายๆท่านทำประจำ แต่รู้หรือไม่ว่าเราสามารถทานพืชผัก ผลไม้เพื่อรักษาอาการดังกล่าวได้ แถมได้ประโยชน์ต่อร่างกายในเรื่องอื่นอีกด้วย ไปดูกันดีกว่าว่ามีพืชชนิดไหนบ้างที่ช่วยรักษาอาการโรคกระเพาะ 1. กล้วยดิบ รู้หรือไม่ว่าการทานกล้วยดิบนั้นจะช่วยรักษาโรคกระเพาะของเราได้เนื่องจากกล้วยดิบมีกลุ่มสารที่เรียกว่า แทนนิน ที่เข้าช่วยยับยั้งการเกิดแบตทีเรียในกระเพาะอาหาร และยังมี เซโรนิน ที่ไปกระตุ้นสารมาเคลือบกระเพาะอาหาร กล้วยดิบจึงทำหน้าที่ทั้งป้องกันและช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหารอีกด้วยประโยชน์ของกล้วยดิบ นอกจากนั้นกล้วยดิบยังช่วยสำหรับผู้ที่เป็นกรดไหลย้อนอีกด้วยเพราะว่ากล้วยดิบจะทำให้กระเพาะอาหารหลั่งสารที่ไม่มากจนเกินไป ทำให้ผู้ป่วยที่เป็นกรดไหลย้อนอาการดีขึ้น นอกจากนั้นในตัวกล้วยดิบยังมีไฟเบอร์สูงช่วยเรื่องระบบขับถ่ายอีกด้วย พร้อมทั้งเหมาะกับผู่ป่วยเบาหวานเพราะกล้วยดิบจะเข้าไปช่วยควบคุมน้ำตาลให้เข้าสู่กระแสเดือดที่เหมาะสม และช่วยเรื่องอาการท้องเสียหากใครเกิดอาการท้องเสียสามารถทานผงกล้วยเพื่อยับยั้งอาการท้องเสียได้ 2. กระเจี๊ยบเขียว สารในกระเจี๊ยบเขียวนั้นจะช่วยรักษาโรคกระเพาะอาหารได้เพียงทานกระเจี๊ยบเขียวหลังอาหารวันละ 3-4 เวลา และมีผลการวิจัยว่าตัวกระเจี๊ยบเขียวนั้นช่วยยับยั้บเชื้อ H.pylory ได้ประโยชน์ของกระเจี๊ยบเขียว กระเจี๊ยบเขียวช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้อีกด้วย แถมยังเหมาะกับผู้ป่วยเบาหวาน Read more…


โรคกระเพาะ เป็นโรคที่สามารถพบได้บ่อย ประมาณว่าคนทั่วไปมีโอกาสเป็นโรคกระเพาะในช่วงใดช่วงหนึ่งของชีวิต โดยการเกิดแผลในกระเพาะมักจะพบในวัยกลางคน ในขณะที่การเกิดแผลที่ลำไส้เล็กส่วนต้นจะพบในวัยหนุ่มสาว อย่างไรก็ตามการเกิดแผลในกระเพาะอาหารหรือแผลที่ลำไส้เล็กส่วนต้นสามารถเกิดขึ้นได้ในคนทุกเพศและทุกวัย สาเหตุการเกิดโรคกระเพาะ เกิดจากการหลั่งกรดในกระเพาะอาหารมากเกินไป งทำให้เกิดแผลขึ้น และพบว่าปัจจุบันก็ยังมีปัยจัยเสริมอื่นๆที่ทำให้เกิดโรคกระเพาะได้อีก  ได้แก่ การติดเชื้อเฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลไร (Helicobactor Pylori)  ซึ่งเป็นแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่ติดต่อโดยการรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อจากอุจจาระของผู้ที่ติดเชื้อ เชื้อนี้เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะเข้าไปฝังตัวอยู่ใต้เยื่อบุกระเพาะ ผนังกระเพาะจึงอ่อนแอลงและมีความทนต่อกรดลดลง ทำให้กระเพาะอาหารและลำไส้เล็กส่วนต้นเกิดแผลได้ง่าย แผลหายช้า และเกิดแผลซ้ำได้อีก รับประทานสิ่งที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อกระเพาะและลำไส้ เช่น ดื่มชา กาแฟ เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ น้ำอัดลม และการรับประทานยาบางชนิด เช่น ยาแก้ปวดจำพวกแอสไพริน ยารักษาโรคกระดูกและข้ออักเสบ ยาชุดหรือยาที่มีสเตียรอยด์ เป็นต้น การรับประทานอาหารที่ไม่ถูกต้อง เช่น การรับประทานอาหารอย่างเร่งรีบ รับประทานไม่เป็นเวลาหรืออดอาหารบางมื้อ เป็นต้น การสูบบุหรี่ ก็สามารถเพิ่มโอกาสของการเป็นแผลที่ลำไส้เล็กส่วนต้นได้เช่นกัน Read more…


โรคกรดไหลย้อน โรคกรดไหลย้อนหรือเรียกอีกอย่างว่า โรคเกิร์ด (Gastroesophageal reflux disease – GERD) หมายถึง ภาวะที่น้ำย่อยในกระเพาะอาหารที่มีฤทธิ์เป็นกรด ซึ่งไหลย้อนกลับขึ้นไประคายเคืองในหลอดอาหารและลำคอ ทำให้เกิดอาการแสบร้อนตรงกลางอก และลำคอ โรคกรดไหลย้อนเป็นโรคที่พบได้ประมาณ 10-15% ของผู้ที่มีอาการอาหารไม่ย่อย (Syspepsia) เป็นโรคที่สามารถพบได้ในคนทุกอายุ ไม่ว่าจะตั้งแต่เด็กแรกเกิดไปจนถึงผู้สูงอายุ โดยจะพบอัตราการเกิดสูงขึ้นในคนที่อายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป แต่ก็อาจพบได้ในเด็กเล็กและคนวัยหนุ่มสาวได้ด้วยเช่นกัน สาเหตุของโรคกรดไหลย้อน เกิดจากภาวะหย่อนสมรรถภาพของหูรูดส่วนล่างของหลอดอาหาร (Lower esophagel sphincter – LES) จึงทำให้กล้ามเนื้อหูรูดส่วนนี้ปิดไม่สนิท ซึ่งเป็นการเปิดช่องให้น้ำย่อยในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นไปที่หลอดอาหารและลำคอ ทำให้เกิดอาการแสบร้อนตรงกลางอกและอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ตามมา สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคกรดไหลย้อน 1. หูรูดส่วนล่างของหลอดอาหารเสื่อมตามอายุ หรือหูรูดที่ยังเจริญไม่เต็มที่ในทารก สำหรับในผู้สูงอายุ Read more…


ผงกล้วยดิบ ช่วยอะไรบ้าง นานไหมกว่าจะหายขาดกล้วยดิบนั้นมีสรรพคุณทางยาในการช่วยรักษาอาการกรดไหลย้อน โรคกระเพาะอาหาร ป้องกันมะเร็งลำไส้ สั่งซื้อโทร : 0624695147


กราโนล่ามีหลายวิธีทำมากมายที่คุณเองก็สามารถทำได้ด้วยตัวเองได้ เป็นกราโนล่าแบบโฮมเมท ทั้งอร่อยและทำให้สุขภาพดีอีกด้วย มีส่วนผสมจากธัญพืชที่หลากหลายตามสูตรฉบับของแต่ล่ะคนที่ ซึ่งมาร่วมเข้าด้วยกันจนเกิดเป็นกราโนล่าในรูปแบบต่างๆ กราโนล่า โฮมเมดง่าย ๆ เริ่มแรกที่ได้ทำกราโนล่าขึ้นมาไม่ใช่เพียงเพราะมันจะสุขภาพดีกว่าที่ซื้อจากร้านหรอกนะคะ เราทำเพียงเพราะว่าทำเองนั้นราคาถูกกว่าซื้อจากที่ร้านมากเลยค่ะ แถมสามารถควบคุมความหวานได้เองด้วย (ร้านค้าที่ซื้อนั้นหวานมาก !!!) จากนั้นมันก็กลายเป็นงานเฮดเมดเล็กน้อยที่จะพยายามสร้างผสมต่างๆเข้าไปให้มันน่ารับประทาน เช่น Berry Burst, Apple Pie, Apricot Sunrise, Blueberry Pie, Apple Crumble, ครีมพีช ‘n, Maple Crunch, คุกกี้ข้าวโอ๊ตบด นี่เป็นสูตรที่เราโพสต์เมื่อไม่นานมานี้ แต่มันได้รับการปรับปรุงบ้างแล้วและบวกกับดูเหมือนว่าในสมัยนั้นฉันไม่ได้พูดอะไรมากนักเพราะโพสต์ไม่มีอะไรเลย การเปลี่ยนแปลงหลักสองประการที่ทำกับสูตรคือการกวนผลไม้แห้งในตอนท้ายเพื่อให้กราโนล่าหลวม ๆ (เพราะบางบิตสามารถติดไฟได้) และเพิ่มวิธีการทำกราโนล่า CLUMPY โดยไม่ต้องเพิ่มน้ำผึ้ง / น้ำตาล Read more…


  หากจะถามถึงผลไม้ยอดนิยมที่คนนิยมรับประทานกัน กล้วย จะต้องเป็นลำดับต้นๆ ที่คนนึกถึง เพราะรสชาติที่อร่อย และหาทานได้ง่าย ยิ่งไปกว่านั้นกล้วยยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นมากมาย คนส่วนใหญ่รับประทานกล้วยเมื่อมีสีเหลืองและสุก แต่จะมีใครรู้บ้างว่ากล้วยดิบนั้นก็สามารถรับประทานได้ แถมยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุไม่ต่างจากกล้วยสุกเลย ความแตกต่างระหว่าง กล้วยดิบ และ กล้วยสุก โดยทั่วไปแล้วกล้วยจะเก็บเกี่ยวในขณะที่ยังคงเป็นสีเขียว เพื่อการยืดอายุการเก็บรักษาให้นานไม่สุกเกิน ก่อนที่จะถึงมือลูกค้า นอกเหนือจากความแตกต่างของสีแล้ว กล้วยดิบและกล้วยสุกยังมีความแตกต่างในเรื่องอื่นๆอีกด้วย รสชาติ : กล้วยดิบจะมีความหวานน้อย และมีรสฝาด ส่วนกล้วยสุกนั้นจะมีรสชาติหวาน พื้นผิว : กล้วยดิบมีเปลือกที่แข็งกว่ากล้วยสุก มีบางคนนิยามว่าเนื้อของกล้วยดิบเหมือนข้าวเหนียว ส่วนประกอบ : กล้วยดิบมีแป้งสูงกว่า และเมื่อกล้วยดิบแป้งจะถูกเปลี่ยนเป็นน้ำตาล สิ่งสำคัญ กล้วยดิบและกล้วยสุก มีรสชาติและเนื้อสัมผัสที่แตกต่างกัน กล้วยดิบมีปริมาณแป้งสูง ส่วนกล้วยสุกนั้น มีปริมาณน้ำตาลที่สูง การเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบคาร์โบไฮเดรตของกล้วยดิบและกล้วยสุก Read more…


คุณค่าทางโภชนาการ กราโนล่า อุดมไปด้วยโปรตีน ใยอาหารและสารอาหารรองอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ธาตุเหล็ก(Fe) แมกนีเซียม(Mg) สังกะสี(Zn) ทองแดง(Cu ) ซีลีเนียม(Se)วิตามินบีและวิตามินอี อย่างไรก็ตามรายละเอียดทางโภชนาการของกราโนล่าจะแตกต่างมากน้อยขึ้นอยู่กับส่วนผสมเฉพาะที่ใช้ ตารางด้านล่างนี้เปรียบเทียบสารอาหารในกราโนล่าสองยี่ห้อ คุณค่าทางโภชนการ ยี่ห้อ A (ปริมาณ 50 กรัม) ยี่ห้อ B (ปริมาณ 50 กรัม) แคลอรี่ 195 กรัม 260 กรัม ไขมัน 4.4 กรัม 7 กรัม โปรตีน 2.9 กรัม 13 กรัม คาร์โบไฮเดรต Read more…


วิธีผิวสวยด้วยกล้วยน้ำว้า 1. เพิ่มความชุ่มชื่น ประโยชน์กล้วยนำว้าที่อุดมไปด้วยโพแทสเซียม จะมีสรรพคุณช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ช่วยแก้ปัญหาเรื่องผิวแห้ง หยาบกร้านได้ ในกรณีที่ผิวแห้งมากๆ เราอาจนำกล้วยสุกมาบด แล้วเอามาพอกที่หน้า หลีกเลี่ยงผิวบริเวณรอบดวงตา และรอบผิวปาก และพอกทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที แล้วล้างออกให้สะอาดด้วยน้ำเย็น 2. ต่อต้านริ้วรอย กล้วยน้ำว้าอุดมเป็นด้วยวิตามินซี ซึ่งเป็นวิตามินที่มีส่วนสำคัญในการกระตุ้นสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว และยังมีวิตามินอี ที่ช่วยปกป้องผิวจากแสง UV และชะลอผิวไม่ให้แก่เร็ว ถ้ากินเป็นประจำก็จะช่วยต้านริ้วรอย มีผิวที่กระชับขึ้นได้ หรือถ้าใครรู้สึกว่ากินแล้วมันไม่ทันใจ ก็ให้เอาเนื้อกล้วยบด 1 ลูก มาผสมกับน้ำส้ม 1 ช้อนชา และโยเกิร์ตมาผสมกันและพอกที่ผิวหน้าได้ 3. ลดสิว ถ้าหากคุณมีปัญหาสิว ลองเอาเปลือกกล้วยมาทา หรือถูบริเวณที่เราเป็นสิว เพราะเปลือกกล้วยมีสรรพคุณในการลดการอักเสบ Read more…


กล้วยน้ำว้ามีประโยชน์อย่างไร? รู้หรือไม่ว่าผลไม้อย่างแอปเปิลที่ขึ้นชื่อเรื่องความมีประโยชน์ก็ยังแพ้กล้วยน้ำว้า เพราะว่าในกล้วยน้ำว้านั้นมีวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ มากกว่าแอปเปิลถึง 2 เท่า โดยมีคาร์โบไฮเดรตมากกว่า 2 เท่า มีฟอสฟอรัสมากกว่า 3 เท่า มีโปรตีนมากกว่า 4 เท่า วิตามินเอและธาตุเหล็กมากกว่า 5 เท่า 1. ประโยชน์ของกล้วยน้ำว้าคือช่วยลดกลิ่นปากได้ ควรรับประทานกล้วยน้ำว้าช่วงเวลาหลังจากการตื่นนอนในตอนเช้าก่อนการแปรงฟัน 2. กล้วยน้ำว้าช่วยควบคุมอุณหภูมิในร่างกายให้เป็นปกติ 3. กล้วยน้ำว้าอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ ที่สำคัญและจำเป็นต่อร่างกาย เช่น ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม คาร์โบไฮเดรต โปรตีน วิตามินเอ วิตามินบี 6 วิตามินบี 12 Read more…

Find Us

Address
123 Main Street
New York, NY 10001

Hours
Monday—Friday: 9:00AM–5:00PM
Saturday & Sunday: 11:00AM–3:00PM

About This Site

This may be a good place to introduce yourself and your site or include some credits.

thThai