ผู้เขียน: foodhealthfruits


โรคกรดไหลย้อน โรคกรด ไหลย้อน, อาการของน้ำย่อยไหลกลับขึ้นมา, โรคกรดไหลกลับ หรือ โรคเกิร์ด (Gastroesophageal reflux disease – GERD) คือ ภาวการณ์ ที่น้ำย่อยในกระเพาะซึ่ง มีฤทธิ์เป็นกรด ไหลถอยกลับขึ้นไประคายในหลอดอาหารและจะก่อให้เกิด อาการแสบร้อนกิ่งกลางอก คอ และก็กล่องเสียง อักเสบ กรดไหลย้อน เป็นโรค ที่เจอได้โดยประมาณ 10-15% ของคนที่มีลักษณะของการกินไม่ย่อย (Syspepsia) เป็นโรค ที่เจอได้ทุกช่วงอายุ ตั้งแต่ทารกไปจนกระทั่งผู้สูงวัย โดยจะเจออัตราการเกิดสูงมากขึ้นในผู้ที่อายุช่วงประมาณ 40 ปี ขึ้นไป (เจอสูงสุด ช่วงอายุ 60-70 ปี ) แต่ว่าบางทีก็อาจเจอได้ช่วงอายุเด็กเล็กๆ Read more…


การปวดท้องที่เกิดจากโรคกระเพาะหรือการเป็นกรดไหลย้อนท้องเสียต่างๆนั้นสามารถแก้ได้ด้วยผงกล้วยดิบ อาการปวดท้องแสบท้องที่เกิดจากโรคกระเพาะนั้นหรือแม้แต่กรดไหลย้อนท้องร่วงซึ่งปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ด้วยผงกล้วยดิบ ลักษณะต่างๆของโรคกระเพาะ โรคกรดไหล มีลักษณะอาการที่คล้ายคลึงกันมาก การรับประทานอาหารเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิต เราไม่ควรมองข้ามถึงอาหารที่เราต้องรับประทานเข้าไป อาหารต่างๆที่เรารับประทานเข้าสู่ร่างกายนั้น ได้ให้ประโยชน์อะไรกับเราบ้าง หรือก่อให้เกิดผลเสียอย่างไร และภูมิปัญญาไทยจากอดีตที่ได้มีการนำกล้วยดิบมาทำเป็นผงกล้วยดิบเพื่อช่วยรักษาสุขภาพท้องต่างๆ หรือ ระบบต่างๆที่ทำหน้าที่ในการย่อยอาหาร การไหลเวียนหลอดอาหารไหลผ่านได้ดี ส่งผลดีต่อร่างกายอีกด้วย หากระบบที่ทำหน้าที่ย่อยอาหาร และระบบขับถ่ายไม่ดีกระจกกดอาการออกทางผิวหนังเช่นอาการที่มีผืนขึ้นผื่นแพ้รู้สึกคัน ตัวร้อนหรือเป็นไข้เป็นต้น แล้วเราจะมีวิธีการดูแล อย่างไร อย่างที่ได้บอกไปข้างต้นนั้น ควรให้ความสำคัญในการรับประทานอาหาร และในสมัยก่อน แพทย์แผนไทยได้มีการนำกล้วยดิบที่มีคุณประโยชน์ต่างๆต่อร่างกาย โดยเฉพาะระบบภายในลำไส้ หากพูดถึงกล้วยดิบ หลายคนคงสงสัยว่ากล้วยดิบจะรับประทานได้อย่างไร จึงมีการนำแนวทางการบดกล้วยดิบให้เป็นผงละเอียดๆเล็กๆ เพื่อให้ง่ายต่อการทาน แสมด้วยน้ำอุ่นในปริมาณ ¼ คลนเข้าด้วยกันให้เป็นเนื้อเดียวกันและดื่ม หรือจะทานแบบผงกล้วยดิบไปเลยก็ได้โดยคลุกผสมด้วยน้ำลายกลืนลงคอไป จะช่วยให้หลอดทางเดินอาหารไหลผ่านได้ง่าย และช่วยให้ระดับน้ำตาลไหลเข้าสู่เส้นเลือดในปกติ มีเอนไซม์ต่างๆเข้าสู่ลำไส้เล็ก ช่วยในเรื่องการเผาผลาญ ดูดซึมได้ดี #ผงกล้วยดิบ #กล้วยดิบHealthfruits


อัลมอนด์ อุดมด้วยไขมันดี แหล่งแมกนีเซียม โพแทสเซียม และวิตามินอีที่ช่วย ต้านอนุมูลอิสระ ลูกเกด เส้นใยอาหารสูง ซึ่งมีส่วนช่วยในการย่อย อาหาร และช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ เมล็นทานตะวัน เป็นแหล่งของโปรตีน ลดไขมันในเลือดบำรุงสายตาลดความเสี่ยงโรคหัวใจ กีวี่ มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระสูง ชะลอวัยและการเกิดริ้วรอยแห่งวัย มีวิตามินซีสูง ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน งาดำ ซ่อมแซมและบำรุงผิว ทำให้ผิวไม่เหี่ยวแห้งระบบเผาผลาญในร่างกายทำงานได้ดีขึ้น งาขาว กล้ามเนื้อผ่อนคลายคลายอาการปวดเมื่อย ลดอาการปวดตามข้อและ ป้องกันโรคเหน็บชา


การลดน้ำหนักด้วยการดื่มน้ำ คุณอาจเคยได้ยินจากหลายๆที่มาแล้วว่าการดื่มน้ำมากขึ้นจะช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้ แต่น้ำช่วยลดน้ำหนักได้จริงหรือ คำตอบสั้น ๆ คือใช่ การดื่มน้ำช่วยเร่งกระบวนการเผาผลาญของคุณแล้วช่วยชำระของเสียในร่างกายและทำหน้าที่ยับยั้งความอยากอาหารได้ นอกจากนี้การดื่มน้ำมากขึ้นจะช่วยให้ร่างกายของคุณหยุดการกักเก็บน้ำไว้ซึ่งจะทำให้คุณลดน้ำหนักน้ำส่วนเกินได้ คุณสามารถทำอะไรได้บ้างเพื่อให้แน่ใจว่าคุณกำลังดื่มเพียงพอต่าความต้องการต่อวันเพื่อให้ร่างกายของคุณชุ่มชื่นและกระตุ้นการลดน้ำหนัก ขั้นตอนที่ 1: ดื่มก่อนกิน เนื่องจากน้ำมีส่วนช่วยระงับความอยากอาหาร การดื่มน้ำก่อนอาหารจะทำให้คุณรู้สึกอิ่มขึ้นดังนั้นจึงลดปริมาณอาหารที่คุณกิน มีการวิจัยที่ระบุว่าการดื่มน้ำก่อนอาหารส่งผลให้ลดการบริโภคโดยเฉลี่ย 75 แคลอรี่ต่อมื้อ ดังนั้นการดื่มน้ำก่อนมื้ออาหารวันละหนึ่งมื้อประมาณ 1-2 แก้วทุกมื้อ จะทำให้คุณได้รับแคลอรี่น้อยลง 27,000 แคลอรี่ต่อปี ขั้นตอนที่ 2: แทนที่เครื่องดื่มที่มีแคลอรี่ด้วยน้ำเปล่า เปลี่ยนจากน้ำที่ให้พลังงานและแทนที่ด้วยน้ำเปล่าเพื่อช่วยให้คุณลดน้ำหนัก หากคุณคิดว่าไม่ชอบน้ำมีรสชาติที่จืดชืดให้ลองบีบมะนาวสักซีกลงไป น้ำ 1 แก้วกับมะนาวเป็นสูตรสำหรับการลดน้ำหนักที่ได้ผลดีเลยทีเดียว เพราะเพกตินในมะนาวช่วยลดความอยากอาหาร ถ้ายังไม่เชื่อว่าน้ำเปล่าช่วยลดน้ำหนักได้จริง ลองทำตามดูเพียงแค่ไม่กี่อาทิตย์ก็จะเห็นความแตกต่าง ขั้นตอนที่ 3: ดื่มน้ำเย็น การดื่มน้ำเย็นน้ำแข็งช่วยเพิ่มการเผาผลาญของคุณเพราะร่างกายของคุณต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อให้น้ำที่ดื่มเข้าไปอุณหภูมิเท่าอุณหภูมิของร่างกายดังนั้นมันจะช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้มากขึ้นและช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้ ยิ่งกว่านั้นน้ำเย็นยังสดชื่นมากกว่าน้ำที่อุณหภูมิห้อง ขั้นตอนที่ Read more…


อินเดียที่เต็มไปด้วยความหลากหลาย ผู้คนกินอาหารหลากหลายประเภทและให้อาหารประเภทต่าง ๆ แก่ลูกน้อยด้วย ผงกล้วยน้ำว้าดิบก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากในภาคใต้ของประเทศอินเดีย ตัวเลือกนี้น่าสนใจหรือไม่ ถ้าใช่คุณอาจต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประโยชน์และเคล็ดลับอื่น ๆ ในบทความต่อไปนี้ เมื่อไหร่ที่คุณจะสามารถแนะนำกล้วยดิบผงให้กับทารกได้อายุที่เหมาะสมในการนำผงกล้วยน้ำว้าดิบมาใส่ในอาหารคือเมื่อลูกของคุณมีอายุเกินหกเดือนหรือเมื่อลูกน้อยของคุณพร้อมสำหรับอาหารที่เป็นของแข็งซึ่งประโยชน์ของมันสำหรับทารกคือจะช่วยในการสร้างภูมิคุ้มกันในทารกเนื่องจากในกล้วยน้ำว้ามันเต็มไปด้วยโพแทสเซียมและสารอาหารสำคัญอื่น ๆ ช่วยให้ย่อยง่ายและไม่ทำให้เกิดอาการไอและเย็นเหมือนกล้วยปกติ อีกทั้งยังช่วยในการพัฒนาสมองที่แข็งแรงในเด็กทารกด้วย วิธีทำผงกล้วยน้ำว้าดิบที่บ้านสำหรับลูกน้อยของคุณ 1. ส่วนผสม: กล้วยน้ำว้าดิบ 2. วิธีการเตรียม: ตัดส่วนปลายทั้งสองด้านและปอกเปลือกของกล้วยออกจากนั้นนำมาหั่นเป็นแว่นบางๆ แล้วนำไปตากแห้งเป็นเวลา 2 ถึง 3 วันหรือจนแห้งจากกนั้นนำไปปั่นให้ละเอียดแล้วใช้ตะแกรงเพื่อกำจัดชิ้นหยาบๆออก สิ่งที่ควรทราบและคำนึงถึงก่อนทำผงกล้วยน้ำว้าดิบมีดังนี้ คุณต้องเลือกกล้วยดิบหรือดิบทำความสะอาดกล้วยอย่างถูกต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ที่ใช้และขั้นตอนต่างๆมีความสะอาด ต้องร่อนให้เหลือเป็นผงละเอียดเพราะไม่เช่นนั้นอาจย่อยได้ยาก ควรเก็บผงไว้ในขวดสุญญากาศ คุณควรทำให้ผงเป็นชุดเล็ก ๆ เพื่อให้มันไม่มีความชื้นหรือหืน สูตรกล้วยดิบผงสำหรับทารกต่อไปนี้เป็นสูตรกล้วยที่ทำง่ายมีคุณค่าทางโภชนาการสำหรับทารก 1. โจ๊กผงกล้วย ส่วนผสม 1.ผงกล้วยดิบ 1 ช้อนโต๊ะ 2.ถ้วยน้ำ Read more…


โยคะสำหรับโรคกระเพาะ – ปัญหากระเพาะอาหาร โยคะเป็นการออกกำลังกายที่ทรงพลังสำหรับทั้งร่างกายและจิตใจของคุณ โยคะผสมผสานกิจกรรมทางร่างกายจิตใจและจิตวิญญาณเพื่อทำให้จิตใจสงบ การฝึกโยคะสามารถช่วยบรรเทาความเครียดได้ และรู้หรือไม่ว่าโยคะก็มีท่ามี่ช่วยปรับปรุงระบบย่อยอาหารและความสมดุลของฮอร์โมนได้ด้วย และนี่จะเป็นท่าโยคะที่ดีที่สุดที่จะเอาชนะปัญหาโรคกระเพาะอาหารของคุณ ซึ่งสามารถฝึกโยคะเหล่านี้ได้ดังนี้ 1. ท่าคลายลม (ตะวันสวรรค์) ท่านี้ก่อให้เกิดการผ่อนคลายเป็นประโยชน์ในการปล่อยก๊าซที่ไม่พึงประสงค์จากกระเพาะอาหารของคุณ และยังปรับปรุงประสิทธิภาพของกระบวนการย่อยอาหาร นอกจากนี้ยังช่วยให้กระบวนการย่อยอาหารมีความสมดุลด้วย วิธีการทำ Wind relieveing เริ่มต้นด้วยการนอนราบกับพื้นโดยยืดแขนและขาออก เมื่อคุณหายใจออกให้นำเข่าทั้งสองข้างงอเข้าหาหน้าอก กอดรอบขาไว้แล้วเอาคางชิดหน้าอก อยู่ในท่านี้และหายใจเข้าออกตามปกติ หายใจเข้านับ 1 หายใจออกนับ 2 นับถึง 8 ครั้งอย่างช้า ๆ แล้วยืดตัวออกสู่ท่านอนราบเหมือนเดิม 2. ท่าสายฟ้า (วชิรณา) ท่าสายฟ้าจะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังอวัยวะย่อยอาหารโดยลดการไหลเวียนของเลือดไปยังขา ช่วยเพิ่มการย่อยอาหารและช่วยในการปล่อยก๊าซออกจากกระเพาะอาหาร ท่าโยคะนี้ยังช่วยป้องกันปัญหาเรื่องกรดในกระเพาะและยังช่วยให้จิตใจสงบด้วย วิธีการทำท่าสายฟ้า เริ่มต้นด้วยการยืนด้วยเข่าของคุณโดยปลายเท้าชี้ไปด้านหลังไปด้านหลัง ประสานปลายเท้าขวาทับซ้ายแล้วนั่งทับลงบนส้นเท้าของคุณ Read more…


มารู้จักประโยชน์ของกล้วยน้ำว้าและข้อควรระวังของกล้วยน้ำว้ากันเถอะ! กล้วยน้ำว้าเมื่อเทียบกับกล้วยสายพันธุ์อื่นๆ ถือว่ากล้วยน้ำว้าให้แคลเซียมมากที่สุด และยังอุดมไปด้วยน้ำตาลธรรมชาติมากถึง 3 ชนิด คือ ซูโครส ฟรุกโตส และกลูโคส นอกจากนี้ยังมีเส้นใย กากอาหาร วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 6 วิตามินซี ซึ่งมีส่วนในการช่วยกระตุ้นระบบภูมิต้านทาน ทั้งยังเป็นแหล่งโปรตีน กรดอะมิโน อาร์จินิน ฮิสติติน และก็ยังมีแร่ธาตุแมกนีเซียมและโพแทสเซียมที่ช่วยป้องกันโรคความดันอีกด้วย กล้วยน้ำว้าเป็นผลไม้ที่เรารู้จักและคุ้นเคยเป็นอย่างดี และหาซื้อได้ง่าย สามารถนำมาแปรรูปเป็นเมนูต่างๆ แล้วยังนิยมใช้บำรุงร่างกายหรือลดน้ำหนักได้อีกด้วย เรามาดูกันว่ากล้วยน้ำว้าจะมีประโยชน์อย่างไรกันบ้าง ประโยชน์ของกล้วยน้ำว้า 1. มีส่วนช่วยแก้อาการนอนไม่หลับ และช่วยลดความเครียดได้ เนื่องจากในกล้วยน้ำว้ามีสารอาหารบางชนิด เช่น โปรตีน ทริปโตเฟนที่มีส่วนช่วยในการผลิตสารเซโรโทนิน หรือที่เรารู้จักกันในชื่อฮอร์โมนแห่งความสุข 2. Read more…


ประโยชน์ของกล้วย กล้วยเป็นผลไม้ที่กินได้และเป็นพืชในสกุล Musa ชื่อทางวิทยาศาสตร์ของกล้วยที่ได้รับการเพาะปลูกมากที่สุดคือ Musa acuminata, Musa balbisiana และ Musa × paradisiaca สำหรับลูกผสม Musa acuminata × M. balbisiana มีชั้นป้องกันด้านนอก (เปลือกหรือผิวหนัง) ที่มีสายยาวและบางจำนวนมากซึ่งทำงานตามยาวระหว่างผิวและทุกส่วนของมันที่กินได้ ต่อไปนี้เป็น 7 ประโยชน์ของกล้วยที่มีต่อสุขภาพ 1. กล้วยสามารถให้พลังงานที่ยอดเยี่ยมแก่คุณได้ กล้วยอุดมไปด้วยแคลอรี่ซึ่งสามารถคงอยู่ได้นานถึง 90 นาทีในระหว่างการออกกำลังกาย กล้วยขนาดกลางหนึ่ง (ที่มีความยาวประมาณ 7 นิ้ว) มีแคลอรี่ประมาณ 60 แคลอรี่มีคุณค่าทางโภชนาการ 105 ชนิด 2. กล้วยสามารถช่วยคุณรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้แข็งแรง Read more…


กล้วยทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นหรือช่วยลดน้ำหนักได้หรือไม่? เราอาจเคยได้ยินบางรายงานที่บอกว่ากล้วยทำให้คุณน้ำหนักเพิ่มขึ้นในขณะที่บางรายงานบอกว่ากล้วยมีประโยชน์ต่อการลดน้ำหนัก ใครถูกและคุณต้องรู้อะไรถ้าคุณกำลังอยากจะให้กล้วยเป็นอาหารที่ช่วยลดน้ำหนัก ก่อนที่เราจะพูดถึงบทบาทของกล้วยที่อาจช่วยคุณในการเพิ่มหรือลดน้ำหนักลองมาดูแต่ละความคิดเห็นและเหตุผลกันค่ะ 1.บรรดาผู้ที่เตือนไม่ให้กินกล้วยเพราะกลัวน้ำหนักจะเพิ่มขึ้นเพราะของคาร์โบไฮเดรตโดยเฉพาะน้ำตาล กล้วยมีน้ำตาลค่อนข้างสูงซึ่งสามารถเปลี่ยนเป็นไขมันในร่างกายได้เร็วกว่าสารอาหารอื่น 2.อีกเหตุผลคือจำนวนแคลอรี่ของพวกมันนั้นสูงกว่าผลไม้อื่น ๆ เช่นแอปเปิ้ลหนึ่งลูกมีประมาณ 60 แคลอรี่ในขณะที่กล้วยผลหนึ่งมีประมาณ 135 แคลอรี่ 3.ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่ากล้วยอุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรตและแคลอรี่เป็นที่น่าพอใจและเป็นทางเลือกสำหรับอาหารว่างเพื่อสุขภาพ เพราะปริมาณน้ำตาลไม่สูงเมื่อเทียบกับขนมหวานส่วนใหญ่เช่นคุกกี้และกล้วยอีกยังมีประโยชน์จากใยอาหารมากกว่า 4.บางคนบอกว่าคุณสามารถกินกล้วยได้ไม่จำกัดจำนวน (หรือผลไม้ใด ๆ ) และไม่เพิ่มน้ำหนักเนื่องจากผลไม้นั้นดีต่อตัวคุณ และอุดมไปด้วยวิตามินแร่ธาตุและสารอาหาร ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่ากล้วยทำให้คุณน้ำหนักขึ้นหรือลดน้ำหนัก เช่นเดียวกับอาหารทุกชนิด การจะลดน้ำหนักนั้นขึ้นอยู่กับความชอบและการเลือกอาหารอื่น ๆ ของคุณ แต่โดยส่วนใหญ่แล้วกล้วยจะเป็นอาหารว่างได้ 1.กล้วยช่วยให้พลังงานได้นานและมีประโยชน์กว่าขนมขบเคี้ยวมากมาย 2.กล้วยมีคุณค่าทางโภชนาการ3.กล้วยมีแคลอรี่และมันไม่ใช่ “อาหารว่าง” ที่คุณควรทานใด้เต็มที่ การทานกล้วยผลเดียวอาจเป็นอาหารว่างที่ดีต่อสุขภาพ แต่ถ้าคุณเพิ่มกล้วยขนาดใหญ่สามลูกในมื้ออาหารประจำวันคุณจะได้รับแคลอรีมากกว่า 350 แคลอรี ข้อมูลทางโภชนาการ กล้วยขนาดกลางหนึ่งผลยาว 7-8 นิ้วมีแคลอรี่ประมาณ 105 Read more…


โรคกระเพาะจะพบได้บ่อยอยู่สามประเภท คือโรคกระเพาะทั่วไปคือการอักเสบของเยื่อบุที่ป้องกันของกระเพาะอาหารเป็นรูปแบบที่พบได้บ่อยไม่รุนแรง โดยทั่วไปแล้วจะไม่ทำให้เกิดการอักเสบมากนัก แต่อาจทำให้มีเลือดออกและแผลที่เยื่อบุกระเพาะอาหาร โรคกระเพาะเฉียบพลันคืออาการอักเสบอย่างฉับพลันและรุนแรง และโรคกระเพาะเรื้อรังเกี่ยวข้องกับการอักเสบในระยะยาวซึ่งเกิดจากการเป็นโรคกระเพาะทั่วไปแล้วไม่ถูกรักษา สาเหตุของโรคกระเพาะคืออะไร? เยื่อบุของกระเพาะมีภาวะอ่อนแอเพราะถูกน้ำย่อยทำลายให้อักเสบทำให้เกิดโรคกระเพาะ หรือการติดเชื้อแบคทีเรียในทางเดินอาหารก็เป็นอีกเหตุผลของโรคกระเพาะด้วย การติดเชื้อที่พบมากที่สุดเป็นเชื้อ Helicobacter pylori ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่ติดอยู่ในเยื่อบุของกระเพาะ การติดเชื้อมักจะส่งผ่านจากคนสู่คน แต่ยังสามารถส่งผ่านอาหารหรือน้ำที่ปนเปื้อนได้ด้วย กิจกรรมบางอย่างอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคกระเพาะ ได้แก่ การดื่มแอลกอฮอล์มาก การทานยาต้านการอักเสบกลุ่ม nonsteroidal (NSAIDs) เป็นประจำ เช่น ibuprofen และแอสไพริน การใช้โคเคนสารเสพติด อายุเพราะเยื่อบุกระเพาะมีความบางตามอายุ หรือการใช้ยาสูบ ส่วนปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ที่พบน้อย ได้แก่ ความเครียดที่เกิดจากการบาดเจ็บสาหัสการเจ็บป่วยหรือการผ่าตัด ภูมิต้านทานผิดปกติความผิดปกติทางเดินอาหารเช่นโรคของ Crohn และการติดเชื้อไวรัส อาการของโรคกระเพาะคืออะไร? โรคกระเพาะไม่เห็นได้ชัดในทุกคน อาการที่พบบ่อยที่สุดคือ: คลื่นไส้ Read more…

Find Us

Address
123 Main Street
New York, NY 10001

Hours
Monday—Friday: 9:00AM–5:00PM
Saturday & Sunday: 11:00AM–3:00PM

About This Site

This may be a good place to introduce yourself and your site or include some credits.

thThai